แปลเพลง Writing’s on the wall – Sam Smith (OST. Spectre)
Writing’s on the wall – Sam Smith (Spectre OST.)
The name is Bond,
James Bond.
Writing’s on the wall – Sam Smith
I’ve been here before
But always hit the floor
I’ve spent a lifetime running
And I always get away
But with you I’m feeling something
That makes me want to stay
เคยมาถึงจุดนี้
แต่ก็ล้มลงร่ำไป
ใช้ชีวิตอย่างไม่หยุดนิ่ง
และคอยวิ่งหนีอยู่เสมอ
แต่กับคุณ มันกลับมีความรู้สึกบางอย่าง
ความรู้สึกที่ทำให้อยากยืนหยัดอยู่ต่อ
I’m prepared for this
I never shoot to miss
But I feel like a storm is coming
If I’m gonna make it through the day
Then there’s no more use in running
This is something I gotta face
ผมถูกทำให้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้
ไม่เคยพลาดเป้าเลยสักครั้ง
แต่กลับรู้สึกเหมือนพายุกำลังจะถาโถมเข้ามา
และหากพยายามจะผ่านห้วงวันเวลานี้ไปให้ได้
มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะวิ่งหนี
นี่คือสิ่งที่จะต้องเผชิญ
If I risk it all
Could you break my fall?
ถ้าหากผมยินยอมที่เสี่ยงกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มี
คุณจะช่วยผมจากการร่วงหล่นนี้ได้ไหม?
How do I live? How do I breathe?
When you’re not here I’m suffocating
I want to feel love, run through my blood
Tell me is this where I give it all up?
For you I have to risk it all
Cause the writing’s on the wall
ผมจะมีชีวิตได้อย่างไร? จะหายใจต่อไปได้อย่างไร?
เมื่อคุณไม่อยู่ที่นี่ ผมรู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะขาดใจตาย
อยากจะรับรู้ว่าความรักนั้นเป็นเช่นไร อยากรู้เหลือเกินว่าในยามที่มันวิ่งวนในสายเลือดนี้มันจะเป็นอย่างไร
บอกทีว่านี่คือที่ที่ผมต้องยอมจำนน
เพื่อคุณ ผมต้องเสี่ยงกับทุกสิ่งที่มี
เพราะถ้อยคำที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงนั้น*
A million shards of glass
That haunt me from my past
As the stars begin to gather
And the light begins to fade
When all hope begins to shatter
Know that I won’t be afraid
เศษแก้วที่แหลกละเอียดเป็นล้านนั้น
ตามหลอกหลอนให้เห็นภาพในอดีต
ในยามที่ดวงดาราพากันรวมตัว
และแสงสลัวต่างพากันมืดหาย
ในยามที่ทุกความหวังสูญสลาย
โปรดรับรู้ไว้ว่าผมจะไม่กลัวในสิ่งที่เข้ามาท้าทาย
If I risk it all
Could you break my fall?
หากผมจะยอมเดินพันทุกอย่างที่มี
คุณจะเป็นผู้นั้นที่ช่วยผมได้หรือไม่?
How do I live? How do I breathe?
When you’re not here I’m suffocating
I want to feel love, run through my blood
Tell me is this where I give it all up?
For you I have to risk it all
Cause the writing’s on the wall
จะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร? จะหายใจได้หรือไม่?
เมื่อคุณไม่อยู่เคียงข้าง ผมนั้นก็รู้สึกเหมือนจะขาดใจ
อยากรู้เหลือเกินว่าความรักนั้นเป็นเช่นไร จะรู้สึกอย่างไรที่มีรักนั้นวิ่งวนอยู่ในสายเลือด
บอกผมทีว่านี่คือที่ที่จะต้องศิโรราบใช่หรือไม่
เพื่อคุณแล้ว ผมจำต้องเดิมพันทุกสิ่งที่มี
เพราะมันถูกจารึกเอาไว้บนกำแพงนั้น
The writing’s on the wall
ลางร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา*
How do I live? How do I breathe?
When you’re not here I’m suffocating
I want to feel love, run through my blood
Tell me is this where I give it all up?
How do I live? How do I breathe?
When you’re not here I’m suffocating
I want to feel love, run through my blood
Tell me is this where I give it all up?
For you I have to risk it all
Cause the writing’s on the wall
ผมจะมีชีวิตได้อย่างไร? จะหายใจต่อไปได้อย่างไร?
ในยามที่คุณจากไป ผมรู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะขาดใจตาย
อยากจะรับรู้ว่าความรักนั้นเป็นเช่นไร อยากรู้เหลือเกินว่าในยามที่มันวิ่งวนในสายเลือดนี้มันจะเป็นอย่างไร
บอกทีว่านี่คือที่ที่ผมต้องยอมจำนน
เพื่อคุณ ผมต้องเสี่ยงกับทุกสิ่งที่มี
เพราะถ้อยคำที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงนั้น
Interpretation: Writing’s on the wall – Sam Smith (Spectre OST.)
The writing on the wall (or sometimes ‘handwriting on the wall’) is an expression that suggests a portent
of doom or misfortune. It originates in the Biblical book of Daniel – where supernatural writing foretells the demise of the Babylonian Empire, but it has come to have a wide usage in language and literature.
คำนี้นะพวก ถ้านายเคยได้ยินเรื่องลายมือลึกลับที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงในคัมภีร์ไบเบิ้ลฉันว่านายก็คงต้องร้อง
อ๋อ เลยล่ะ—อะไรนะ? ไม่
อ๋อ หรอ?
บ้าจริง—-มันมีความหมายว่าเป็นลางร้ายที่จะเกิดขึ้นน่ะ เหมือนในไบเบิ้ลที่ครั้งหนึ่งได้มีตัวอักษรลึกลับปรากฏบนกำแพงซึ่งภายหลังก็เกิดการล่มสลายของอาณาจักรบาบิโลเนียขึ้น
(อ้าว—-งั้นทำไมนายถึงแปลว่าร่องรอยกำแพงล่ะเพื่อน?)
ฮะฮ่า ถ้านายลองตั้งใจดู Teaser แล้วก็ Trailer ของ Spectre ดีๆ (ซึ่งฉันก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่แปลต่างจากฉันจะผิดอะไรนะ
no offense) นะเพื่อน นายจะรู้ว่าทำไมฉันถึงแปลแบบนี้
เอาล่ะ กดหยุดไว้ที่วินาทีที่ 30 ซะ
เห็นชื่อนั้นมั๊ย?!! เจมส์ บลัดดี้ บอนด์ ออน เดอะ วอลล์! นี่ล่ะที่ฉันหมายถึงล่ะ!!
Good day everyone, I am Bella A. Ittisereekul and I am burdened with the glorious purpose, delivering the complex meaning behind any songs that are fascinating and profound through MUSICSAYING blog. My passion is anything related to languages, and my spare time is spent on reading, listening to music, watching movie, and fangirling. We are willing to translate and interpret any songs that particularly have a special meaning for you so feel free to make any requests.