แปลเพลง Waiting For The End – Linkin Park

*โยกหัวซ้าย
*โยกหัวขวา
*โยกหัวหน้า
*โยกหัวหลัง
หลับ… (Waiting For The End (of the class))
มันใช่หรอ?

Waiting For The End – Linkin Park
Yeah!
Yo!
This is not the end, this is not the beginning
Just a voice like a riot rocking every revision
But you listen to the tone and the violent rhythm
And though the words sound steady something empty’s within them
We say yeah with fists flying up in the air
Like we’re holding onto something that’s invisible there
‘Cause we’re living at the mercy of the pain and the fear
Until we dead it, forget it, let it all disappear

นี่ไม่ใช่จุดจบ และไม่ใช่จุดเริ่มต้น
ก็แค่เสียงเหมือนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในทุกๆการเปลี่ยนแปลง
แต่ถ้าเธอลองฟังน้ำเสียงและทำนองที่รุนแรงนั้น
เบื้องหลังถ้อยคำที่ดูหนักแน่น มันมีแต่ความว่างเปล่า
เราบอกว่าใช่ กับกำปั้นที่ชูขึ้นไปบนอากาศ
ราวกับว่าเรากำลังกำสิ่งบางสิ่งที่มองไม่เห็นเอาไว้
เพราะชีวิตเราขึ้นอยู่กับความเมตตาของความเจ็บปวดและความกลัว
จนกว่าเราจะชินชา ลืมมันลง และปล่อยให้มันหายไป

Waiting for the end to come
Wishing I had strength to stand
This is not what I had planned
It’s out of my control
Flying at the speed of light
Thoughts were spinning in my head
So many things were left unsaid
It’s hard to let you go

รอคอยให้จุดจบมาถึง
คาดหวังให้ฉันยังมีแรงจะยืนต่อ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันเคยหวังเอาไว้
มันเกินกว่าที่ฉันจะคุมได้
เรื่องราวที่วุ่นวายทั้งหมด
ทิ้งให้ฉันต้องนั่งคิดวนไปวนมา
หลายๆอย่างที่ไม่ได้พูดออกไป
มันยากนะ ที่จะปล่อยเธอ

(Oh) I know what it takes to move on
(Oh) I know how it feels to lie
(Oh) All I want to do
Is trade this life for something new
Holding on to what I haven’t got

ฉันรู้มันต้องเสียอะไรเพื่อจะก้าวต่อไป
ฉันรู้ดีกว่ามันรู้สึกยังไงที่ต้องโกหกออกมา
ที่ฉันอยากจะทำ
คือแลกเปลี่ยนชีวิตนี้กับชีวิตใหม่
ยึดเหนี่ยวในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้มา

Sitting in an empty room
Trying to forget the past
This was never meant to last
I wish it wasn’t so

นั่งอยู่ในห้องที่ว่างเปล่า
พยายามลืมอดีตเก่าๆ
ความทรงจำที่ไม่ควรจะจบลงเลย
ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้น

(Oh) I know what it takes to move on
(Oh) I know how it feels to lie
(Oh) All I want to do
Is trade this life for something new
Holding on to what I haven’t got

ฉันรู้มันต้องเสียอะไรเพื่อจะก้าวต่อไป
ฉันรู้ดีกว่ามันรู้สึกยังไงที่ต้องโกหกออกมา
ที่ฉันอยากจะทำ
คือแลกเปลี่ยนชีวิตนี้กับชีวิตใหม่
ยึดเหนี่ยวในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้มา

(Yeah, yeah!)
What was left when that fire was gone?
I thought it felt right but that right was wrong
All caught up in the eye of the storm
And trying to figure out what it’s like moving on
And I don’t even know what kind of things I said
My mouth kept moving and my mind went dead
So I’m picking up the pieces, now where to begin
The hardest part of ending is starting again

อะไรคือสิ่งที่เหลือหลังจากไฟมอดดับลง?
ฉันเคยคิดว่ามันใช่ แต่ก็กลับคิดผิด
ฉันติดอยู่กับปัญหาที่โถมเข้ามา
และพยายามจะคิดวิธีที่จะก้าวต่อไป
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันพูดอะไรออกไป
คำพูดมันไหลออกมาโดยที่ฉันไม่ได้คิดด้วยซ้ำ
ตอนนี้ฉันจะเริ่มต้นใหม่ แล้วจะไปเริ่มตรงไหนหล่ะ
สิ่งที่ยากที่สุดของจุดจบ คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

Oh-oh-oh-oh-oh-oh…
All I want to do
Is trade this life for something new
Holding on to what I haven’t got
I’m holding on to what I haven’t got
I’m holding on to what I haven’t got

ทั้งหมดที่ฉันอยากจะทำ
คือแลกเปลี่ยนชีวิตนี้กับชีวิตใหม่
ยึดเหนี่ยวในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้มา
ฉันเหนี่ยวรั้งในสิ่งที่ฉันไม่เคยมี
ฉันยึดเหนี่ยวในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้มา

This is not the end, this is not the beginning
Just a voice like a riot rocking every revision
(I’m holding on to what I haven’t got)
But you listen to the tone and the violent rhythm
Though the words sound steady something empty’s within them
We say yeah with fists flying up in the air
Like we’re holding onto something that’s invisible there
(Holding on to what I haven’t got)
‘Cause we’re living at the mercy of the pain and the fear
Until we get it, forget it, let it all disappear

นี่ไม่ใช่จุดจบ และไม่ใช่จุดเริ่มต้น
ก็แค่เสียงเหมือนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในทุกๆการเปลี่ยนแปลง
(ติดอยู่กับสิ่งที่ยังไม่ได้มา)
แต่ถ้าเธอลองฟังน้ำเสียงและทำนองที่รุนแรงนั้น
เบื้องหลังถ้อยคำที่ดูหนักแน่น มันมีแต่ความว่างเปล่า
เราบอกว่าใช่ กับกำปั้นที่ชูขึ้นไปบนอากาศ
ราวกับว่าเรากำลังกำสิ่งบางสิ่งที่มองไม่เห็นเอาไว้
(ติดอยู่กับสิ่งที่ยังไม่ได้มา)
เพราะชีวิตเราขึ้นอยู่กับความเมตตาของความเจ็บปวดและความกลัว
จนกว่าเราจะชินชา ลืมมันลง และปล่อยมันให้หายไป