สวัสดีนะ
แทนตัวเองว่าเราได้ไหมอ่ะ จริง ๆ เราว่าทุกคนน่าจะอ่าน blog นี้มาได้ระยะนึง ถึงเข้ามาหน้านี้ได้ 55555 เรารู้จักกันแหละ เนอะ 😂
ประวัติส่วนตัวสักเล็กน้อยนะครับ
ตอนที่ blog นี้เกิดขึ้นมา เราเป็นแค่เด็กมัธยมต้นคนนึงที่แบบ ชอบ programming และชอบเพลงสากล (ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ แต่ชอบ) ด้วยความที่เราอยากรู้เรื่อง เราอยากเข้าใจว่าเพลงเขาต้องการจะสื่ออะไร เราก็เลยตัดสินใจสร้าง blog เล็ก ๆ ขึ้นมา และเราก็เอาเพลงมาแปล แบบแปลเล่น ๆ เล่น ๆ เลย ซึ่งบอกเลยว่า ไม่คิดว่าจะมีใครมาดู ไม่คิดว่าจะทำได้นาน ไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้
ยังจำได้เลยว่า เพลงสากลเพลงแรกที่ฟังแล้วชอบ และยังฟังมาถึงทุกวันนี้ ก็คือ You Belong With Me ของ Taylor Swift (รวมถึง parody version ที่เป็น zombie ยังตราตรึงในใจมาตลอด 😅)
พอเราขึ้นมัธยมปลาย เราตัดสินใจเรียน Intensive English Program ของโรงเรียน ซึ่งมันก็คือศิลป์คำนวณใน version ที่ + อังกฤษไปเท่าตัว สาเหตุที่เลือกก็ไม่อะไร อยากแปลเพลง 555555 ไปให้สุดสิครับ ซึ่งเราก็ได้เพื่อนที่สนใจมาช่วยกันทำอยู่สามสี่คน เดี๋ยวว่าง ๆ จะให้เขามาแนะนำตัวแบบทางการคนละรอบนะครับ
เราว่าเพลงมันอยู่ในหลาย ๆ ส่วนของชีวิตเรา มันเป็นเหมือน diary ในทุก ๆ ครั้งที่เราเปิด มันสะท้อนแนวคิด มันดึงช่วงเวลา เหมือนกับเวลาที่หลาย ๆ คนชอบผูกเพลงไปกับช่วงเวลาต่าง ๆ นั่นแหละ
ภาษาอังกฤษ กับการฟังเพลง
เราคิดว่า ภาษาอังกฤษที่เราพูดได้ทุกวันนี้ มันมาจากการเรียนส่วนหนึ่ง แล้วก็มาจากการฟังเพลง แปลเพลง ดูซีรีย์ อ่านนิยาย
การฟังเพลงมันคือการฟังคนมาเล่าเรื่องราวออกมา สิ่งที่เรา รวมถึงแอดมินหลาย ๆ คนเห็น เรื่องราวเหล่านี้คือ storyline ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งมันก็คือ tense ต่าง ๆ ใน grammar ที่เราท่องจำนั้นแหละ
แอดมินก็เลยมาคิดกันว่า งั้นมันก็ต้องเป็นไปได้สิ ถ้าเราจะเอาเพลง มาช่วยในเรื่องของการเรียนรู้ภาษา ลองยกท่อน ๆ หนึ่งมาจากเพลงได้เลย
You’re on the phone with your girlfriend
You Belong with Me – Taylor Swift
She’s upset, she’s going off about something that you said
‘Cause she doesn’t get your humor like I do.
เธอคุยอยู่กับแฟนของเธอ
เขากำลังโมโหกับเรื่องที่เธอพูดไปก่อนหน้านั้น
เพราะว่าเขาไม่เกทมุขตลกของเธอ เหมือนที่ฉันเกท
จะเห็นว่าด้วยความที่เพลงมันเป็น storyline ต่อ ๆ กัน เราจะเห็นว่าการทะเลาะกันในตอนนี้ (เป็น Present Simple) เกิดมาจากอะไรสักอย่างที่พระเอก MV ของเราพูดไป (แน่นอน เป็นอดีต ก็ Past Simple)
เห็นไหม ถ้าเราเข้าใจเนื้อหาเพลง เราจะอ่านเนื้อเพลงแล้วจำรูปแบบการใช้งาน และ grammar ที่ใช้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องท่องสักนิด (เพราะเนื้อเพลงมันจำง่ายกว่าเยอะ) ด้วยวิธีนี้แหละ การเรียนภาษาอังกฤษถึงดูน่าสนใจขึ้นมาก ๆ
Musicsaying
Musicsaying (music-saying) เป็น blog แปลเพลงที่มีเป้าหมายเพื่อศึกษา ทำความเข้าใจเพลง เนื้อหาของเพลงโดยคำนึงถึงบริบท นักร้อง และสิ่งต่าง ๆ เพื่อแปลบทเพลงออกมาด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติและตรงกับสิ่งที่เพลงและนักร้องต้องการจะสื่อออกมาให้มากที่สุด
อีกทั้งภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่สำคัญและจำเป็นในชีวิตประจำวัน เป็นภาษาที่สามารถเปิดทางให้กับแนวคิดและโอกาสใหม่ ๆ ได้ การฟังเพลง การแปลเพลง และการเข้าใจเนื้อหาของเพลง นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ คำศัพท์ต่าง ๆ และสำเนียงการออกเสียง ความมั่นใจในการนำไปใช้
เนื้อเพลงทั้งหมดที่แสดงอยู่ใน blog นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของทางผู้แต่ง หรือต้นทาง ทางแอดมินและผู้แปล ผู้พัฒนาเว็บไซต์ ตั้งใจทำ Musicsaying ให้เป็น blog เพื่อการศึกษาความหมายของเพลง และศึกษาภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ 😁